Exotic Pet หากแปลความหมายตรงตัว ก็คือ สัตว์แปลก ซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยง ที่คนทั่วไปอาจจะไม่ได้นิยมเลี้ยงกัน เพราะส่วนใหญ่สัตว์ Exotic จะเป็นสัตว์นำเข้าจาก ต่างประเทศ หรืออาจจะต้องเป็น สัตว์ที่ผ่านการตรวจสอบ อนุสัญญาไซเตส (CITES) มาแล้ว ถึงจะสามารถนำมาเป็น สัตว์เลี้ยงได้
สิ่งที่ควรรู้ก่อนเริ่มเลี้ยง Exotic Pet
ก่อนที่จะนำสัตว์เอ็กโซติก หรือสัตว์แปลกมาเลี้ยงดู ผู้เลี้ยงควรศึกษากฎหมาย การคุ้มครองสัตว์สงวน หรือสัตว์หายาก ก่อนเสมอ เพราะสัตว์บางชนิด หากนำมาเลี้ยงแล้ว อาจจะผิดกฎหมายได้ แต่เมื่อได้มาแล้ว ก็ควรศึกษาวิธีการเลี้ยงดู รวมถึงที่พักอาศัย และการให้อาหารที่เหมาะสมด้วย
สัตว์ Exotic กับสัตว์ป่าแตกต่างกันอย่างไร
หลายๆ คนอาจจะคิดว่า สัตว์เอ็กโซติก ก็คือสัตว์ป่า แต่ที่จริงแล้ว สัตว์สองกลุ่มมีความแตกต่างกันอยู่มาก อย่างสัตว์ป่าของไทยก็จะถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ สัตว์ป่าสงวน เป็นสัตว์หายาก ที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์และสัตว์ป่าคุ้มครอง เป็นสัตว์ที่กฎหมายกระทรวงคุ้มครองไว้ เพื่อไม่ให้เกิดการสูญพันธุ์
ซึ่งจะแตกต่างกัน กับสัตว์เอ็กโซติก ที่สามารถนำมาเป็นสัตว์เลี้ยงได้ เพราะสัตว์เหล่านี้ จะได้รับการตกแต่งสายพันธุ์มาอีกที ไม่ใช่สายพันธุ์ดั้งเดิมแต่กำเนิด [1]
ประเภทของสัตว์เอ็กโซติก
สัตว์เอ็กโซติก จะแบ่งออกเป็น 6 ประเภทหลักๆ ดังนี้
- สัตว์เลื้อยคลาน เช่น เต่า งู อีกัวน่า ตุ๊กแกลายเสือดาว และกิ้งก่า
- สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง เช่น แมงมุม หรือด้วง
- สัตว์ปีก เช่น นกชนิดต่างๆ
- สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เช่น กระต่าย สุนัขจิ้งจอก หรือ แรคคูน
- สัตว์น้ำ เช่น ปลาแปลก อย่างปลาเทพา หรือปลาปักเป้าฟาฮากา
- สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ เช่น กบนา ซาลาแมนเดอร์ หรือ กบแอฟริกันบลูฟรอก
ที่มา: รู้จักกับ ExoticPet [2]
เช็กความพร้อม ก่อนเริ่มเลี้ยงสัตว์เอ็กโซติก
การที่จะนำสัตว์เอ็กโซติก มาเลี้ยง ผู้เลี้ยงควรเตรียมความพร้อม เป็นอย่างมาก ขั้นตอนแรก คือ ต้องมีแหล่งที่พักอาศัยที่เหมาะสม มีอาหารที่เหมาะกับร่างกาย และจะต้องระวังไม่ให้สัตว์ประเภทนี้ หลุดออกไป เพราะมันเป็นสัตว์ต่างถิ่น ถึงแม้ว่าจะมีวิธีในการเอาตัวรอดได้ แต่ก็จะสืบพันธุ์ได้เช่นเดียวกัน และนี้คือเหตุผลหลัก ที่อาจจะส่งผลให้ระบบนิเวศเสียสมดุลได้
การรับเลี้ยงสัตว์เอ็กโซติก ควรทำอย่างไร
หากใครต้องการเลี้ยงสัตว์เอ็กโซติก แนะนำให้รับเลี้ยงจาก ผู้เพาะพันธุ์ หรือจากฟาร์มที่ได้รับการอนุญาต ในการเพาะเลี้ยง สัตว์ประเภทนี้ โดยตรง เพราะต้องมีแหล่งที่มาชัดเจน และต้องไม่ใชสัตว์ที่ถูกจัด อยู่ในกลุ่มสัตว์ป่าสงวน เช่น จิ้งจอกสายพันธุ์ไทย สัตว์ชนิดนี้ไม่สามารถซื้อขาย หรือครอบครองเพื่อเลี้ยงดูได้ [3]
แนะนำสัตว์เอ็กโซติก น่าเลี้ยง
- นก เช่น นกซันคอนัวร์ นกกระตั้ว หรือนกแก้วมาคอร์ ซึ่งราคาค่าตัวจะอยู่ที่ 40,000 - 500,000 บาท
- งู เช่น งูหลามบอล งูหลามไทย หรืองูคอร์นสเนค ซึ่งราคาค่าตัวจะเริ่มต้นตั้งแต่ 3,000 บาท
- แมวป่าคาราคัล เป็นแมวที่ดูคล้ายกับ เสือดาว ลำตัวขนาดใหญ่ มีลวดลาย และมีนิสัยรักสันโดษ ซึ่งราคาค่าตัวอยู่ที่ 200,000 - 300,000 บาท
- ชินชิลล่า สัตว์ฟันแทะ ที่มาพร้อมกับขนหนานุ่ม และมีบุคลิกที่ขี้เล่น โดยสัตว์ชนิดนี้จะมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 1,500 บาท
สรุป สัตว์เอ็กโซติก
สรุป สัตว์ Exotic สัตว์เลี้ยงสุดแปลก ที่มาพร้อมความหายาก ซึ่งสัตว์เอ็กโซติกส่วนใหญ่ จะเป็นสัตว์ที่เลี้ยงง่าย ไม่ต้องดูแลเยอะ ที่สำคัญยังมีความสวยงาม ที่มองได้แบบไม่เบื่อ แต่สัตว์กลุ่มนี้ค่อนข้างมีราคาที่สูง และก่อนนำมาเลี้ยง แนะนำให้ศึกษากฎหมายคุ้มครองสัตว์ ให้ละเอียดถี่ถ้วนก่อนเสมอ
อ้างอิง
[1] ennxo. (September 7, 2024). สัตว์ Exotic Pets. Retrieved from ennxo
[2] hdmall. (September 19, 2024). รู้จักกับ ExoticPet. Retrieved from hdmall
[3] petfriendlythailand. (July 22, 2024). ExoticPets สัตว์เลี้ยงสุดแปลก. Retrieved from petfriendlythailand