ผักโตเร็ว เป็นผักที่ไม่ต้องใช้เวลาปลูกนาน สามารถรอทานได้ภายใน 1 เดือน หรือน้อยกว่านั้น การปลูกผัก สามารถเลือกได้หลายแบบ พืชบางชนิดอาจจะใช้เวลา ในการปลูกนาน แต่ก็เก็บเกี่ยวได้หลายรอบ วันนี้เราจะมาแนะนำ พืชที่โตเร็ว
ผักโตเร็ว คืออะไร?
ผักโตเร็ว [1] คือผักที่เจริญเติบโต จนสามารถเก็บได้ ในเวลาไม่เกิน 1 เดือน หรือมากกว่า 1 เดือนเล็กน้อย ผักชนิดนี้ จะประกอบไปด้วยพริก ผักชี ผักบุ้ง เป็นต้น ส่วนผักที่โตช้า จะเป็นผักที่ให้ผล เช่น ฟักทอง ซึ่งต้องรอการออกใบ หลังจากนั้น จึงจะมีการออกผล หลังจากที่ลำต้น มีความสมบูรณ์แล้ว
ยกตัวอย่าง ผักโตเร็ว
- ผักกวางตุ้ง: ผักกวางตุ้งเป็นผักที่โตเร็วมาก สามารถเก็บเกี่ยวได้ ในระยะเวลาเพียง 3-4 สัปดาห์ หลังจากการปลูก นอกจากนี้ ยังมีสายพันธุ์หลายชนิด ที่โตไว และเหมาะสำหรับการปลูก ในสวนขนาดเล็ก
- ผักกาดขาว: ผักกาดขาวเป็นผักที่นิยมปลูก ในภูมิภาคเอเชีย สามารถเก็บเกี่ยวได้ ในระยะเวลาประมาณ 30-45 วัน หลังจากการปลูก
- ผักบุ้งจีน: ผักบุ้งจีน สามารถเก็บเกี่ยวได้ ในระยะเวลาประมาณ 30-45 วัน
- ผักชี: ผักชีเป็นผักสมุนไพรที่โตเร็ว สามารถเก็บได้ ในระยะเวลาประมาณ 3-4 สัปดาห์ หลังจากการปลูก นอกจากนี้ยังเป็นที่นิยม ในการปลูกลงกระถางอีกด้วย
- ผักคะน้า: ผักคะน้าเป็นอีกตัวเลือก ที่โตเร็วและง่ายต่อการดูแล สามารถเก็บได้ ในระยะเวลาประมาณ 30-45 วัน
- ผักกะหล่ำปลี: ผักกะหล่ำปลี เป็นผักที่มีรสชาติอร่อย สามารถเก็บเกี่ยวได้ ในระยะเวลาประมาณ 60-90 วัน
เคล็ดลับในการปลูกผักให้โตเร็ว
การปลูกผักให้เจริญเติบโตอย่างรวดเร็วนั้น จำเป็นที่จะต้องจะต้องใส่สารเคมี หรือสารอินทรีย์ เพื่อเป็นการเร่งดอก เร่งผล นอกเหนือจากการใช้ยาให้ ผักโตเร็ว จะเป็นการใช้เคล็ดต่อไปนี้
- การเลือกสถานที่: สถานที่ที่มีแสงแดดเพียงพอ จะช่วยให้ผักโตเร็ว และสุขภาพดี เลือกสถานที่ ที่ได้รับแสงแดดตลอดวัน หรืออย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงต่อวัน
- การให้น้ำ: การให้น้ำเพียงพอ และตรงเวลาช่วยให้ผักโตเร็ว และสมบูรณ์ ควรรดน้ำให้ชุ่มตลอด จนถึงระดับราก และเพิ่มปริมาณน้ำ ในช่วงแดดร้อน
- การให้ปุ๋ย: เลือกใช้ปุ๋ยที่มีส่วนผสม ที่เหมาะสมกับชนิดของผักที่ปลูก เช่น ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยอินทรีย์ช่วยให้ผักโตเร็ว และสมบูรณ์
- การปรับปรุงดิน: ตรวจสอบความเป็นกรด-ด่างของดิน และปรับปรุงดิน ให้เหมาะสมกับการปลูกผัก เช่น การใส่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก เพื่อเพิ่มสารอาหารในดิน
- การป้องกันศัตรูพืชและโรค: ตรวจสอบและระวังศัตรูพืช และโรคที่อาจทำลายผัก ใช้วิธีการป้องกัน และควบคุมศัตรูพืชให้ทัน
- การปลูกพืชหมุนเวียน: การปลูกผักแบบหมุนเวียน คือการเปลี่ยนสถานที่ปลูกผัก ในแต่ละฤดูกาล เพื่อลดความเสี่ยง จากโรคและศัตรูพืช
ผักแต่ละฤดูกาล
การปลูกผักตามฤดูกาล จะช่วยให้ผักโตอย่างเหมาะสม เพราะผักแต่ละชนิด มีความต้องการน้ำ อากาศ และแสงแดด ที่แตกต่างกัน หากยังไม่รู้ว่าฤดูนี้จะปลูกผักอะไร ลองมาดูผัก ที่เรานำมายกตัวอย่างกันเลย
ฤดูร้อน
ตัวอย่างผักหน้าร้อน: แตงกวา, มะเขือเทศ, ถั่วลันเตา, พริก, มะเขือพวง, กะหล่ำปลี, ผักชี, ผักโขม, ผักกาดขาว, บวบ, มะเขือเปราะ, ฟักทอง, ถั่วฝักยาว และ ผักบุ้ง เป็นต้น
ฤดูฝน
ตัวอย่างผักหน้าฝน: คะน้า, ผักกวางตุ้ง, ผักชี, ผักโขม, ผักบุ้ง, ผักกาดหอม, ผักโขม, ผักกาดขาว และ ผักกาดเขียว เป็นต้น
ฤดูหนาว
ตัวอย่างผักหน้าหนาว: คะน้า, ผักกวางตุ้ง, ผักชี, ผักโขม, ผักบุ้ง, กะหล่ำปลี, ฟักทอง, ผักกาดหอม, ผักกาดขาว และผักกาดเขียว เป็นต้น
สรุป ผักโตเร็ว
ผักโตเร็ว เหมาะที่จะปลูกไว้ทาน ในบริเวณที่มีพื้นที่จำกัด นอกจากเรื่องของ การประหยัดเงินแล้ว เรายังรู้สึกถึง ความภาคภูมิใจอีกด้วย สำหรับมือใหม่ ที่กำลังฝึกปลูกผักเพื่อทานเอง ลองนำเคล็ดลับ ที่เรานำมาแชร์ในวันนี้ไปใช้ดู
อ้างอิง
[1] Gardare. (2017 - 2024). ผักอายุสั้นทันต่อการบริโภค. Retrieved from researchex