ความจริงของตำนาน บาซิลิสก์ (Basilisk) หรือเรียกอีกอย่างว่า “ค็อกคาไทรซ์” สัตว์ประหลาดงูไคเมริค ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นราชาแห่งอสรพิษ ซึ่งหากใครเผลอจ้องตา อาจทำให้ตายได้ทันที! ส่วนข้อมูลที่น่ารู้อื่นๆ ตามเราไปศึกษาด้านล่าง
ทำความรู้จักที่มาของชื่อ บาซิลิสก์ คิงออฟสเน็ก
บาซิลิสก์ มาจากคำภาษากรีก basilískos หมายถึง ราชาตัวน้อย / เจ้าชายน้อย / หัวหน้า ซึ่งเป็นการผสมคำระหว่าง basileús (ราชา) + ískos (จิ๋ว/เล็ก) และพ้องความหมายกับ ชื่อสายพันธุ์นก cockatrice ทำให้มันบางครั้ง มันถูกเรียกว่า คิงออฟสเน็ก
ประวัติศาสตร์ บาซิลิสก์ ถือกำเนิดขึ้นมาได้ยังไง
มีตำนานกล่าวว่า ฟักออกมาจากไข่งูหรือคางคก โดยคำอธิบายในฝั่งยุโรป บอกว่าลักษณะของมัน เหมือนกับไก่ตัวผู้ มีพิษร้ายแรง และอาจสามารถพ่นไฟได้ ซึ่งบันทึกแรกๆ เขียนในหนังสือ Natural History ของพลินีผู้เฒ่า เขียนเมื่อปี ค.ศ. 79 โดยเขียนไว้ว่า
งูนี้พบได้ในแถบไซรีน มีความยาวไม่เกิน 12 นิ้ว จุดสีขาวบนหัวคล้ายสวมมงกุฎ ขยับตัวเป็นแถวยาว และทำลายสิ่งต่างๆ ได้ด้วยลมหายใจ แต่เชื่อกันว่า พิษของอีเห็นเป็นจุดอ่อนของมัน นอกจากนี้ บางคนยังสันนิษฐานว่า คำอธิบายเกี่ยวกับงูเห่า อาจเป็นที่มาของตำนานราชาอสรพิษ
ในศตวรรษที่ 19 นักประวัติศาสตร์ชื่อว่า เทโอโดรัส นาร์บูตัส อ้างว่าถ้ำบนทางแยกของถนน Bokšto, Subačiaus และ Bastėjos ใกล้กับประตูบาซิอุส ซึ่งบริเวณป้อมปราการกำแพงเมือง คือที่อยู่อาศัยของมัน [1]
ลักษณะ บาซิลิสก์ และความสามารถเฉพาะตัว
- รูปร่าง : คล้ายกับงูหรือมังกร ลำตัวยาวโค้งงอ และมีเกล็ด
- หงอน : บางตำนานราชางูมีหงอนบนหัว ซึ่งเชื่อมโยงกับความเชื่อว่ามันเกิดจากไข่ไก่
- สายตา : กล่าวกันว่า หากสบตาโดยตรง อาจเสียชีวิตหรือทำให้เป็นหินได้ ไม่ต่างจากเมดูซ่า
- ลมหายใจ : มีลมหายใจเป็นพิษร้ายแรง ทั้งหายใจเข้าและหายใจออก
- เหมือนมังกร : ไม่ว่าจะเป็น มีปีก หรือการพ่นไฟ
- คุ้มกันตัวเอง : บางเรื่องเล่าบอกว่า มันมีภูมิคุ้มกันตัวเองจากพิษ ทำให้มีชีวิตอมตะ
ที่มา: Physical Description, Special Abilities [2]
จุดอ่อนของ บาซิลิสก์ เอาชนะได้ด้วยวิธีใดบ้าง
จุดอ่อนของมัน คือเสียงไก่ขัน เพราะเชื่อว่าสามารถขับไล่ สัตว์ชั่วร้ายไปสู่ปรโลกได้ ต่อมาคือตัวพังพอน โดยตำนานบางเรื่อง พังพอนมีภูมิคุ้มกันต่อสายตา และพิษของราชางู สุดท้ายคือการใช้กระจก ให้สะท้อนพิษกลับไปทำร้ายตัวเอง
การปรากฏตัว บาซิลิสก์ ด้านศิลปะ & ความเชื่อ
การปรากฏของงูลึกลับ พบเห็นในแวดวงเครื่องประดับ หรืองานศิลปะชิ้นใหญ่ โดยเฉพาะช่วงศตวรรษที่ 14-16 แม้จะไม่โดดเด่น แต่มันมักอยู่ในโครงสร้าง ของสถาปัตยกรรมขนาดใหญ่ หรือใช้เป็นสัญลักษณ์ประจำตระกูล
นอกจากนี้ ด้วยพลังสุดพิเศษของมัน เล่ากันว่า เมื่อสัตว์ประหลาดตายแล้วจะถูกเผา แต่เถ้ากระดูกของมัน มีคุณสมบัติที่นักเล่นแร่ในศตวรรษที่ 13 ตามหา เนื่องจากเชื่อว่า สามารถเปลี่ยนเป็นเงินทองได้ ในขณะที่เรื่องเล่าอื่นบอกว่า ใช้ขี้เถ้าทำเป็นศิลาอาถรรพ์ [3]
บาซิลิสก์ ในวรรณคดีกรีกและวัฒนธรรมสมัยใหม่
การปรากฏตัวของราชางูลึกลับ ในวรรณคดีกรีกโบราณ ส่วนใหญ่รับบทเป็นศัตรูตัวร้าย ยกตัวอย่างเช่น
- งานเขียนโดย Ovid ที่นำงูมาเป็นส่วนหนึ่งของตำนาน และนิทานเรื่องการเปลี่ยนแปลง
- บทกวีของ Virgil กล่าวถึงสัตว์เหมือนกับราชางู
ต่อมาการตีความของคิงออฟสเน็ก ถ่ายทอดออกมาในเวอร์ชันต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ยุคกลางที่พรรณนาว่า เป็นสัตว์ประหลาดที่ถูกล้อมด้วยไฟ หรือยุคฟื้นฟูที่อธิบายถึงลักษณะอันซับซ้อน รูปร่างสง่างาม และมีแววตาคุกคาม ส่วนวัฒนธรรมยุคใหม่ อาทิเช่น
- ภาพยนตร์แฮร์รี่พอตเตอร์ (Harry Potter and the Chamber of Secrets 2002) ของ J.K. Rowling งูลึกลับถูกเลี้ยงดูโดยทอมริดเดิ้ล หรือลอร์ดโวลเดอมอร์ต กลับชาติมาเกิด เพื่อใช้เป็นเครื่องมือสังหารตัวเอก
ที่มา: The Basilisk in Greek Literature, The Basilisk in Art and Culture [4]
สรุป บาซิลิสก์ / b æ z ɪ l ɪ s k
b æ z ɪ l ɪ s k งูจิ๋วพิษร้ายในเรื่องเล่ากรีก ที่มีแววตาคร่าชีวิต และกำเนิดขึ้นอย่างพิสดาร หัวเป็นไก่ตัวเป็นสัตว์เลื้อยคลาน แต่กลับแพ้ทางให้กับ Weasels หรือกระจก ซึ่งในแง่ของความอันตราย มีความละม้ายกับสัตว์ในตำนานตัวอื่น ทั้งมังกร ไฮดรา และ ไคเมร่า
อ้างอิง
[1] Wikipedia. (October 22, 2024). Accounts, Origin. Retrieved from en.wikipedia
[2] Mythicalcreatures.info. (2024). Physical Description, Special Abilities. Retrieved from mythicalcreatures
[3] Mythology.net. (November 14, 2016). Visual Arts, Alchemy. Retrieved from mythology
[4] Mythology Worldwide. (September 14, 2024). The Basilisk in Greek Literature, The Basilisk in Art and Culture. Retrieved from mythologyworldwide
