คราฟมากา (Krav Maga) เป็นศิลปะต่อสู้แบบเข้าปะทะ ที่คิดค้นขึ้นเพื่อ การฝึกวิชาทหาร สำหรับป้องกันประเทศอิสราเอล หรือเรียกว่า “IDF” ซึ่งใช้ทั้งเทคนิคไอคิโด มวย ยูโด คาราเต้ และมวยปล้ำ มัดรวมเข้าด้วยกัน ส่วนข้อมูลเพิ่มเติมอื่นๆ เราจะพาไปรู้จัก
แนะนำให้รู้จัก คราฟมากา มันคือกีฬาอะไร?
คราฟมากา คำจากภาษาฮีบรู 2 วลี ได้แก่ “krav / קרב” หมายถึงต่อสู้ และ “Maga / מגע” หมายถึงปะทะ ซึ่งเป็นการดัดแปลงมาจากกีฬาต่อสู้หลายแขนง แต่เน้นการหลบหลีก ปัดป้อง จู่โจมกลับเลเวลรุนแรง ที่อาจทำให้ คู่ต่อสู้ถึงแก่ชีวิตได้
ไทม์ไลน์ประวัติความเป็นมาของ คราฟมากา
ตามคำบอกกล่าว ของนักประวัติศาสตร์ อาทิเช่น โนอาห์ กรอส (Noah Gross) รวมถึงข้อมูลต่างๆ ที่ผ่านการตรวจสอบแล้ว สันนิษฐานว่า กีฬาต่อสู้นี้ กำเนิดขึ้นจากความน่าจะเป็น ดังนี้
ยุคแรกเริ่ม : การกลับสู่ตะวันออกกลางของผู้ลี้ภัย
- ปลายทศวรรษปี 1880 ผู้ลี้ภัยชาวยิว ทยอยกลับสู่ตะวันออกกลาง แต่พวกเขาไม่ค่อยถูกต้อนรับ กระทั่งในปี 1903 มีการก่อตั้งสหภาพแมคคาบี เพื่อกีฬาและการศึกษาของชาวยิว หรือสามารถทำความรู้จักให้มากขึ้นได้ที่ Maccabi World Union
ยุคที่ 2 : กองกำลังทหารไม่เป็นทางการก่อตั้งขึ้น
- ในปี ค.ศ. 1907 กลุ่มปกครองชาวยิวหรือ HaShomer ถือกำเนิดขึ้น และในปี 1919 ผู้บุกเบิกนามว่า เซเยป จาโบตินสกี (Ze'ev Jabotinsky) ก่อตั้ง Haganah ก่อนจะพัฒนามาสู่ “ คราฟกามา ”
ยุคที่ 3 : ฝึกป้องกันตัวเต็มรูปแบบ
- เมื่อปี 1941 กลุ่มคนสอน เช่น ไมเคิล โฮโลวิทซ์ (Maishel Horowitz), เมนาเซ ฮาเรล (Menashe Harel), เยฮูดา มาคัส (Yehuda Markus) และเกอร์ชอน โคฟเลอร์ (Gershon Kofler) เผยแพร่หลักสูตรให้กับชาวบ้าน รวมถึงกองกำลังทหารไม่เป็นทางการ
ยุคที่ 4 : ก่อตั้งกองทัพอิสราเอล
- เมื่อปี 1948 อิสราเอลกลายเป็นประเทศ และสถาปนากองกำลังทหารรุ่นแรก โดยมีปรมาจารย์จากเชโกสโลวาเกีย ชื่อว่า Emrich Lichtenfeld (Imi) เป็นผู้ฝึกสอน ก่อนจะกำเนิดระบบ Krav-Maga อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อฝึกในกับทหารและตำรวจโดยเฉพาะ
ยุคที่ 5 : ความนิยมในกลุ่มประชาชนทั่วไป
- เมื่อปี 1964 Imi ออกจากกองทัพ แล้วก่อตั้งสถาบัน เพื่อฝึกให้กับพลเรือน นำพื้นฐานมาจากมวย และจูจิตสู โดยใช้เข็มขัดแต่ละสี เพื่อบ่งชี้ถึงความสามารถ
ที่มา: The Actual, Unabridged History Of Krav-Maga [1]
หลักการพื้นฐานกีฬา คราฟมากา เป็นอย่างไร
หลักการของคราฟ มากา สนับสนุนให้นักสู้ หลบหลีกการเผชิญหน้าโดยตรง และโจมตีตำแหน่งที่อ่อนแอที่สุด โดยมีแนวคิดดังต่อไปนี้
- ป้องกันตัวไปพร้อมกับการโจมตี
- พัฒนาพฤติกรรมที่ก้าวร้าวทางกายภาพ
- จู่โจมคู่ต่อสู้จนกว่าจะไม่สามารถตอบโต้ได้
- กลยุทธ์โจมตีเชิงป้องกัน และสู้กลับให้เร็วที่สุด
- เป้าหมายของการโจมตี คือจุดเปราะบางของร่างกาย เช่น ตา,คอ, ใบหน้า, ช่องท้อง เป็นต้น
- จู่โจมด้วยเทคนิคที่ง่าย และทำซ้ำได้ง่าย
- หาช่องทางหลบหลีก หรือตัวช่วยจู่โจมคู่ต่อสู้
- ทำให้กล้ามเนื้อจดจำการเคลื่อนไหว เพื่อให้ตอบสนองได้รวดเร็ว
- สามารถต่อสู้ตามสัญชาตญาณได้ แม้อยู่ในความตึงเครียด
ที่มา: Basic principles [2]
ระบบความสามารถการต่อสู้ คราฟมากา เป็นแบบไหน
หน่วยงาน คราฟมากา โดยทั่วไปในอิสราเอล ใช้ระบบจัดอันดับความสามารถของ Imi Lichtenfeld ซึ่งอ้างอิงตามระบบสายคาดสีของกีฬายูโด เริ่มต้นจากสายขาว ตามด้วยเหลือง ส้ม เขียว น้ำเงิน น้ำตาล ไปจนถึงสายดำ 9 ระดับ
นอกจากนี้ ยังมีระบบที่เรียกว่า Patch คิดค้นโดยเอยาล ยานิลอฟ (Eyal Yanilov) เมื่อปลายทศวรรษปี 1980 ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 3 ระดับ คือ ผู้เริ่มต้น P1-P5, จูเนียร์ G1-G5 และผู้เชี่ยวชาญ E1-E5 โดยสายคาดแต่ละสี มีรายละเอียดที่แตกต่างกัน ดังเช่นหัวข้อด้านล่าง
สีเข็มขัด คราฟมากา บ่งบอกถึงอะไรบ้าง
สายขาว-สายสีเหลือง ผู้เริ่มฝึกใหม่
- ทักษะโจมตีทั่วไป เช่น ศอก, เตะ, ตีเข่า, ตีด้วยมือ และต่อย
- เคลื่อนไหวเพื่อป้องกัน, หลบหลีก และมูฟขณะโจมตี
- ป้องกันการต่อย-เตะ จากทักษะปกติและเทคนิคตั้งการ์ด
- เบรกฟอลล์ ม้วนตัว ป้องกันอาวุธมีด 360 องศา
- การต่อสู้บนพื้นเบื้องต้น การใช้อาวุธจากสภาพแวดล้อม
สายสีเหลือง-สายสีส้ม
- ทักษะจู่โจมขั้นสูง การป้องกันพร้อมตอบโต้กลับ จากการเตะตรงๆ ต่ำถึงปานกลาง เทคนิคเตะวงเดือนขณะป้องกัน
- ทักษะป้องกันตัวแอดวานซ์ จากการถูกรัดคอ หรือถูกคว้าข้อมือ
- ล้มถอยหลัง ล้มจากการยืน สู้กลับด้วยหมัด การปลดอาวุธ สู้บนพื้น แข่งขัน 2-4 นาที x 2 รอบ
สายสีส้ม-สายสีเขียว
- เทคนิคเตะขั้นสูง เตะแบบเสี้ยววินาที กระโดดหมุนตัว
- ป้องกันการถูกคว้าผม รัดคอ ล็อก คว้ามือ หมัด อาวุธมีด กอดด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลัง
- ทักษะแอดวานซ์สำหรับต่อสู้บนพื้น
- เทคนิคพลิกตัวกลับตามความสูง และขนาดพื้นที่
- เข็มขัดสีเขียว หมายถึง ผู้ฝึกฝนที่ถูกยอมรับ [3]
สายน้ำเงิน-น้ำตาล-ดำ
- จากการอธิบายในบทความ Preparing For Your Black Belt กล่าวว่า เงื่อนไขสำคัญของสายเข็มขัดเหล่านี้ คือการต่อสู้เต็มรูปแบบ เร็ว แม่นยำ ไม่ว่าจะเป็น การป้องกัน โจมตี โต้กลับ หรือเทคนิคปลดอาวุธ ต้องทำด้วยความสมบูรณ์แบบ ซึ่งหากใครทดสอบผ่านสายดำ จะสามารถเปิดสถาบันของตนเองได้
- สายน้ำเงิน เน้นการโจมตีที่ใช้อาวุธ เช่น มีด ไม้ ดาบปลายปืน และปืน
- สายสีน้ำตาล เน้นการรับมือจากคู่ต่อสู้หลายๆ คนในเวลาเดียวกัน
- สายดำ ถูกสอนทักษะวิชาทหาร และมีระดับเหนือกว่าสายดำ คือ Dargas 1-5
เทคนิค 3 เลเวลสำหรับการฝึก คราฟมากา
เทคนิคส่วนใหญ่ที่ใช้เพื่อชนะ คราฟมากา ไม่ใช่ทักษะกีฬาต่อสู้ เนื่องจากจุดประสงค์หลัก คือการป้องกันตัวเอง ซึ่งในบทความนี้ เราจะแยกออกเป็น 3 เลเวล คือ พื้นฐาน, สำหรับมือใหม่ และแอดวานซ์ ดังนี้
เทคนิคพื้นฐาน
- ท่าการยืน : แยกขาให้กว้างเท่าช่วงไหล่ แขนแนบลำตัว
- ตั้งการ์ด : ขาของคู่แข่งจะอยู่ด้านหลัง แล้วยกมือไว้ระดับคาง ข้อศอกอยู่ตำแหน่งซี่โครง ฝ่ามือหันออกนอกลำตัว
- หมัด : ในขณะตั้งการ์ด สามารถชกหมัดตรงได้ ด้วยการหมุนเท้าหน้า แล้วเหยียดแขน หมัดจะโจมตีคู่แข่งในแนวนอน
เทคนิคสำหรับผู้เริ่มต้น
- เตะขาหนีบ : ท่าต่อสู้ประชิดตัว เตะหน้าแข้งให้ยกขึ้น แล้วใช้ขาหลังเตะไปที่เป้า
- ฟาดด้วยฝ่ามือ : โจมตีด้วยการแบมือออก ให้ตำแหน่งข้อมือโดยคู่ต่อสู้
- ป้องกันเทคนิคแบร์ฮัก : ย่อเข่าลงเร็วๆ แล้วกางขาออก จากนั้นขยับสะโพกไปด้านข้างเพื่อจู่โจมเป้าคู่แข่ง
เทคนิคแอดวานซ์
- ใช้อาวุธมีดเพื่อป้องกัน : โดยเปลี่ยนตำแหน่งจู่โจม ด้วยการเตะหรือออกหมัด แล้วค่อยเอื้อมมือไปจับมือ หรือข้อมือของคู่แข่ง
- จิ้มตา : เทคนิคสุดอันตราย คือจิ้มตาคู่ต่อสู้ โดยต้องกางนิ้วให้ตรง แล้วเล็งไปที่ดวงตา
ที่มา: Krav-Maga Techniques [4]
สรุป คราฟมากา
คราฟมากา การต่อสู้สัมผัสตัว คิดค้นเมื่อราวๆ ปี 1880 โดยชาวยิว และถูกใช้เพื่อฝึกทางทหาร IDF ของอิสราเอล ซึ่งนำทักษะมาจากการสู้หลายแขนง ไม่ว่าจะเป็น มวย ยูโด คาราเต้ โดยเน้นป้องกัน และจู่โจมกลับแบบรุนแรง ส่งผลให้บางครั้ง คู่ต่อสู้อาจเสียชีวิต จึงทำเป็นต้องได้รับการฝึกฝนก่อน
อ้างอิง
[1] Elite Defence Academy. (August 10, 2019). The Actual, Unabridged History Of KravMaga. Retrieved from edakravmaga
[2] Wikipedia. (July 5, 2024). Basic principles. Retrieved from en.wikipedia
[3] Eitan Krav Maga. (November 5, 2021). The First Three KravMaga Belts are Separated by color. Retrieved from eitankravmaga
[4] Wodify / Blog. (July 23, 2021). Krav-Maga Techniques. Retrieved from blog.wodify