ว่าด้วยเรื่อง เยติในตำนาน (Yeti) สิ่งมีชีวิตลึกลับแห่งเทือกเขาหิมาลัย

มกราคม 6, 2025
เยติในตำนาน

ว่าด้วยเรื่อง เยติในตำนาน (Yeti) มันเป็นสิ่งมีชีวิตละม้ายกับ “ลิง” ว่ากันว่า อาศัยอยู่บนเทือกเขาหิมาลัย โดยมักถูกเรียกด้วยฉายา “บิ๊กฟรุตเอเชีย” หรือมนุษย์หิมะที่น่ารังเกียจ ซึ่งต้นกำเนิด เกิดขึ้นจากนิทานพื้นบ้านของชาวเชอร์ปา ส่วนข้อมูลอื่นๆ อ่านต่อด้านล่าง

ที่มาของชื่อ เยติในตำนาน หมายถึงอะไร

เยติในตำนาน คำว่า Yeti เป็นการรวมคำในภาษาเชอร์ปา ระหว่างคำว่า yah หมายถึงหินหรือหน้าผา กับคำว่า teh หมายถึงสัตว์ ในขณะที่นักวิจัยบางส่วน บอกว่าที่มาของชื่อ น่าจะมาจากคำว่า yaksha ในภาษาสันสกฤต ส่วนชื่อเรียกเพิ่มเติม ยกตัวอย่างเช่น

  • อัลมาส, บามัน (ชื่อมองโกลเรีย)
  • มิกุ, มิโกอิ (ชื่อภูฎาน)
  • เมกูร์, ลัตเซน, ชู่หมิง, จัมเป่ยมุง (ชื่ออินเดีย)
  • ริเมะ, มิเช, เมก็อด (ชื่อทิเบต)
  • บุนมันจิ, มิรกา, มหาลังกูร์ (ชื่อเนปาล)

ที่มา: ETYMOLOGY [1]

เยติในตำนาน มีความเป็นมาอย่างไร

เยติในตำนาน

ตำนานของมนุษย์หิมะเยติ เริ่มรู้จักในศตวรรษที่ 19-20 โดยมันเป็นส่วนหนึ่ง ของความเชื่อก่อนศาสนาพุทธ เล่ากันว่า ชาวเลปชาบูชาสิ่งมีชีวิตในธารน้ำแข็ง ด้วยฐานะเทพเจ้าแห่งการล่าสัตว์ โดยถือว่าเป็นสัตว์ที่ไม่ใช่มนุษย์ แถมผู้นับถือศาสนายุงดรุงบอน ยังเชื่อว่าเลือดของคนป่า ใช้ประโยชน์ได้ในทางพิธีกรรม

ต่อมาในปี ค.ศ. 1832 วารสารสมาคมเอเชียเบงกอล ลงข่าวเกี่ยวกับบันทึกของนักเดินทางชื่อ บีเอช ฮอดจ์ สัน ที่เขาไปประเทศเนปาลตอนเหนือ แล้วพบเข้ากับสัตว์ 2 ขา ขนาดตัวใหญ่ จนกระทั่งในปี 1899 มีบันทึกถึงรอยเท้าปริศนาเป็นครั้งแรก

เริ่มเข้าสู่ทศวรรษที่ 20 ข้อมูลเรื่องเยติเริ่มมีมากขึ้น เนื่องจากชาวตะวันตก พยายามที่จะปีนขึ้นไปจำนวนภูเขา ซึ่งในระยะเวลาเพียง 2 ศตวรรษ มีการอ้างว่าพบเห็นเยติ มาแล้วมากกว่า 30 ครั้งขึ้นไป ยกตัวอย่างการค้นพบสำคัญ ดังต่อไปนี้

ที่มา: History and sightings [2]

การพบเห็น เยติในตำนาน มีคนกล่าวอ้างมาแล้วกี่ครั้ง

  • 1951 : นักสำรวจจากอังกฤษชื่อ Eric Shipton ในระหว่างเดินเขาเอเวอเรสต์พร้อมกับทีม เขาพบรอยเท้ายักษ์ใหญ่ บนระดับความสูง 19,000 ฟุต จึงถ่ายภาพที่รู้จักในชื่อว่า “รอยเท้า Shipton”
  • 1953 : เซอร์เอ็ดมันด์ ฮิลลารี และเทนซิง นอร์เกย์ พบรอยเท้าใหญ่ระหว่างพิชิตยอดเขา
  • 1958 : คณะสำรวจของทอม สลิก อ้างว่าเจอกับมือมัมมี่ของเยติ อยู่ที่อารามในเมืองปังโบเช [3]
  • 1960 : คนแรกที่พิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์อย่าง เซอร์เอ็ดมันด์ ฮิลลารี อ้างว่าพบหนังศีรษะสัตว์ร้าย
  • 2007 : จอช เกตส์ บอกว่าเขาเจอเข้ากับรอยเท้าลึกลับ 3 รอย บริเวณลำธารใกล้เทือกเขาหิมาลัย
  • 2010 : นักล่าสัตว์ชาวจีน จับสัตว์ประหลาดได้ มี 4 ขา ไม่มีขน เขาอ้างว่ามันคือเยติ
  • 2011 : นักวิจัยจากสวนสัตว์เอดินบะระ ตรวจสอบรอยนิ้วมือที่พบในวัด และอ้างว่าเป็นของเยติ [4]

เรื่องเล่า เยติในตำนาน สูงเท่าไหร่

เยติในตำนาน ตามคำบอกเล่าของพยานหลายคน บ้างก็บอกว่ามันมีรอยเท้าห่างกันราวๆ 16-24 นิ้ว หรือ 6-7 นิ้ว และมีความกว้าง 4 นิ้ว ไม่เหมือนรอยเท้าของมนุษย์ ปกคลุมด้วยขนยาว มีฟันเหมือนสุนัข ตาสีเขียว อาจสูงได้ประมาณ 11 ฟุต และมักส่งเสียงกรีดร้องอย่างน่ากลัว

เยติในตำนาน กับบิ๊กฟุตเป็นตัวเดียวกันหรือเปล่า

เยติในตำนาน

ความเป็นจริงของเยติ บิ๊กฟุต หรือ เนสซีแห่งล็อกเนส อยู่ในการนำเสนอทิศทางเดียวกัน คือยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ ซึ่งตำนานของเยติ อาจจะเกิดจากการพบเห็นหมี แล้วระบุตัวตนคลาดเคลื่อน เช่น

หมีขั้วโลก

  • ถึงแม้หมีขั้วโลก จะไม่ใช่สัตว์ในภูมิภาคหิมาลัย แต่ทฤษฎีนี้ถูกเสนอขึ้น เนื่องจากหมีอาจเคลื่อนย้ายไปกับใต้พื้นน้ำแข็ง แล้วมาโผล่ในบริเวณดังกล่าว แต่หากดูจากระยะทาง หรือภูมิศาสตร์ ข้อเสนอนี้แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย

หมีสีน้ำตาล

  • เช่น หมีสีน้ำตาลหิมาลัย (Ursus arctos isabellinus) ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับ หมีสีน้ำเงินทิเบต (Ursus arctos pruinosus) ขึ้นชื่อว่ามีขนรุงรัง และเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ดี เช่น หมียืนด้วย 2 ขาหลัง ซึ่งอาจเป็นที่มาของตำนานเยติ

ที่มา: Mythical Creature or Misidentified Bear? [5]

เยติในตำนาน เป็นสัญลักษณ์ถึงอะไร

นอกจากบอกเล่าในตำนานชาวทิเบต เยติยังมีบทบาท ร่วมกับประเพณีด้านจิตวิญญาณอีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น

  • ผู้พิทักษ์ขุนเขา : มักถูกนิยามว่า เป็นผู้พิทักษ์ยอดเขาหิมาลัย เนื่องจากชาวทิเบตเชื่อว่า ภูเขาดังกล่าวเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และเยติปกป้องมันไว้
  • ตัวแทนของความเวิ้งว้าง : เนื่องจากถูกมองว่าดุร้าย และอาศัยในป่าดงดิบที่สูงมาก จึงเป็นตัวแทนความลึกลับ ที่ยังไม่ได้สำรวจ
  • ทดสอบความกล้าหาญ : การเจอกับเยติ ชาวทิเบตถือว่าเป็นการทดสอบความกล้า และความอดทน หากใครรอดชีวิตมาได้ จะถือว่าได้รับพรให้มีกำลังและปัญญา
  • เชื่อมโยงกับจิตวิญญาณ : บางคนเชื่อว่า เยติเป็นสื่อกลางของกายภาพ กับอาณาจักรวิญญาณ มีพลังเหนือธรรมชาติ และอาจเกี่ยวข้องกับหลักปฏิบัติในศาสนาพุทธ

ที่มา: Tibetan Folklore: The Yeti's Role [6]

สรุป เยติในตำนาน

เยติในตำนาน สิ่งมีชีวิตตัวยักษ์ คล้ายกับลิงหรือหมี ยืน 2 ขาเหมือนกับมนุษย์ เด่นชัดด้วยขนรุงรังสีเข้ม บางครั้งอธิบายว่ามีฟันใหญ่ที่แหลมคม มันเป็นปริศนาทั้งในเนปาล อินเดีย ภูฏาน รวมถึงในประเทศจีน ซึ่งคนส่วนใหญ่มักเรียกว่า บิ๊กฟุตแห่งภูมิภาคเอเชีย

อ้างอิง

[1] Earth Storiez. (2025). ETYMOLOGY. Retrieved from earthstoriez

[2] Wikipedia. (December 13, 2024). History and sightings. Retrieved from en.wikipedia

[3] Hangar 1 Publishing. (March 23, 2023). Sightings and Expeditions. Retrieved from hangar1publishing

[4] Live Science. (November 28, 2017). Yeti evidence?. Retrieved from livescience

[5] Howstuffworks. (August 11, 2023). Mythical Creature or Misidentified Bear?. Retrieved from science.howstuffworks

[6] Mythlok. (2021-2025). Tibetan Folklore: The Yeti's Role. Retrieved from mythlok

อะไรที่ได้มาด้วยความพยายามของตัวเอง มันจะไม่มีทางหลุดมือไปง่ายๆ
Pgslot-logo
เว็บเดิมพันอันดับ 1 คาสิโนสดออนไลน์ เสมือนอยู่ในคาสิโนจริง มีรูปแบบการเดิมพันมากมาย Pgslot สล็อตออนไลน์ ทำกำไรง่าย ได้เงินจริงจากเว็บตรง เว็บเดียวจบ จากค่ายดัง ทั่วทุกมุมโลก รองรับทุกระบบทั้งคอมพิวเตอร์และมือถือ ฝาก - ถอน อัตโนมัติทุกขั้นตอน เว็บเดิมพันที่ดีที่สุดในประเทศไทย
Pgslot-logo
เว็บเดิมพันอันดับ 1 คาสิโนสดออนไลน์ เสมือนอยู่ในคาสิโนจริง มีรูปแบบการเดิมพันมากมาย Pgslot สล็อตออนไลน์ ทำกำไรง่าย ได้เงินจริงจากเว็บตรง เว็บเดียวจบ จากค่ายดัง ทั่วทุกมุมโลก รองรับทุกระบบทั้งคอมพิวเตอร์และมือถือ ฝาก - ถอน อัตโนมัติทุกขั้นตอน เว็บเดิมพันที่ดีที่สุดในประเทศไทย
Pgslot-homeหน้าหลักPgslot-promotionโปรโมชั่นlogo-QA-teamPgslot-registerสมัครสมาชิกPgslot-กิจกรรมกิจกรรม