ว่าด้วยเรื่องตำนานของ เนสซีแห่งล็อกเนสส์ (Loch Ness Monster) สัตว์ประหลาดคอยาว ในนิทานพื้นบ้านสกอตแลนด์ โดยเป็นที่โด่งดังเมื่อปี ค.ศ. 1933 จากภาพถ่ายขาวดำ ซึ่งพบในทะเลสาบล็อกเนสส์ ส่วนข้อมูลเพิ่มเติม ทั้งไทม์ไลน์การค้นพบ และความเป็นไปได้ อ่านต่อด้านล่าง
ที่มาของชื่อ เนสซีแห่งล็อกเนสส์ ตั้งจากอะไร
เนสซีแห่งล็อกเนสส์ ชื่อนี้ได้มาหลังจากที่ หนังสือพิมพ์ The Courier ตีพิมพ์การพบเห็นของ “จอร์จ สไปเซอร์” ในเดือนสิงหาคมของปี 1933 ซึ่งกล่าวถึงปลสประหลาด งูทะเล หรือมังกร จนสุดท้ายชื่อที่ได้ก็ไปตกอยู่ที่ สัตว์ประหลาดแห่งล็อกเนสส์ และนับตั้งแต่ทศวรรษ 1940 มันถูกเรียกด้วยความเอ็นดูว่า Niseag จากภาษาเกลิก
รากฐานประวัติ เนสซีแห่งล็อกเนสส์ ถูกพบเห็นกี่ครั้ง
ตำนานสัตว์ประหลาดล็อกเนสส์ มีรากฐานมาจากหินแกะสลัก โดยชาวพิคท์ (Picts) แห่งภูมิภาคไฮแลนด์ และคำบอกเล่าดังกล่าว เริ่มต้นตั้งแต่ยุคกลาง โดยเซนต์โคลัมบาชาวไอริช เล่าว่าพบสัตว์ร้ายในแม่น้ำเนสส์ เมื่อปี 565 โดยถูกมันโจมตี และฆ่าชายคนหนึ่ง ก่อนที่โคลัมบาจะเรียกพลังจากพระเจ้า มาสั่งให้สัตว์สยบ ส่วนการพบเห็นอื่นๆ ยกตัวอย่างเช่น
- 1871-1872 / ดี. แม็คเคนซี่ : ในเดือนตุลาคม แม็คเคนซี่จากหมู่บ้านบัลเนน พบสิ่งคล้ายท่อนไม้หรือเรือคว่ำ กำลังดิ้นและทำให้น้ำกระเพื่อม จากนั้นในปี 1943 เรื่องนี้ถูกตีพิมพ์โดยรูเพิร์ตกูลด์
- 1888 / อเล็กซานเดอร์ แมคโดนัลด์ : ช่างก่อสร้างจากอับรีอาแคน พบสัตว์ขาสั้นตัวใหญ่ โผล่จากทะเลสาบ แล้วพุ่งตัวไปในระยะ 50 หลา เขาบอกว่ามันมีหน้าตา เหมือนกับซาลาแมนเดอร์
- 1934 / อาเธอร์ แกรนท์ : วันที่ 5 มกราคม อาเธอร์อ้างว่าเกือบขับรถชนสัตว์ รูปร่างหัวเล็ก คอยาว และอธิบายว่ามันเป็นสัตว์ผสมแมวน้ำ + พลีซิโอซอร์ ส่วนนักวิชาเสนอว่า อาจเป็นนากหรือแม่น้ำ
- 1934 / ภาพถ่ายของศัลยแพทย์ : ถ่ายโดยสูตินรีแพทย์ชื่อ โรเบิร์ต เคนเนธ วิลสัน ในเดือนเมษายน ซึ่งเป็นภาพขาวดำ เห็นส่วนหัวกับคอ และถือเป็นหลักฐานในระยะเวลากว่า 60 ปี
- 2011 / ภาพโซนาร์ : ในเดือนสิงหาคม กัปตันเรือชื่อว่า มาร์คัส แอตกินสัน ถ่ายภาพอะไรสักอย่างไม่ทราบชนิด มีความกว้าง 1.5 เมตร ว่ายตามเรือ 2 นาที ในความลึก 23 เมตร
- 2014 / ภาพถ่ายแผนที่ Apple : ในเดือนเมษายน มีข้อมูลภาพถ่ายจากดาวเทียม แสดงบนแผนที่ Apple เห็นสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ 30 เมตร อยู่ตอนเหนือสุดของทะเลสาบล็อกเนสส์ สามารถคลิกชมภาพชัดๆ ได้ที่ ABC News
ที่มา: Sightings [1]
การค้นหา เนสซีแห่งล็อกเนสส์ เกิดขึ้นมาแล้วเท่าไหร่
การค้นหาสัตว์ประหลาดล็อกเนสส์ ที่มีชื่อเสียงและเป็นภารกิจใหญ่ รวบรวมมาได้ทั้งหมด 9 ครั้ง ได้แก่
- 1934 / สำรวจภูเขาเอ็ดเวิร์ด : ผู้ก่อตั้งบริษัท Eagle Star Insurance ให้ทุนค้นหาสำหรับผู้ชาย 20 คน เป็นเวลา 5 สัปดาห์ แม้จะมีการบันทึกได้ 21 ภาพ แต่ไม่มีภาพใดที่พบเห็นชัดเจน
- 1962-1972 / สำนักงานสอบสวนปรากฏการณ์ล็อกเนสส์ (LNPIB) : ก่อตั้งเมื่อปี 1962 เพื่อศึกษาสิ่งมีชีวิตดังกล่าว มีสมาชิกถึง 1,030 คน ก่อนจะปิดลงในอีก 10 ปีต่อมา
- 1967-1968 / ศึกษาโซนาร์ : นำทีมโดยหัวหน้าวิศวกรรมอิเล็กทรอนิกส์ชื่อ D. Gordon Tucker ซึ่งเชื่อมโยงกับสำนักงาน LNPIB โดยเลือกทะเลสาบนี้ เป็นที่ทดสอบระยะสูงสุด 800 เมตร
- 1972, 1975, 2001, 2008 / โรเบิร์ต ไรน์ส : กลุ่มนักวิจัยจาก Academy of Applied Science ซึ่งได้ข้อสรุปว่า สัตว์ตัวนี้อาจสูญพันธุ์ไปแล้ว เพราะปรับตัวเข้ากับภาวะโลกร้อนไม่ได้
- 1987 / Deepscan : เรือจำนวน 24 ลำ ส่งคลื่นเสียงทั่วทะเลสาบ และสำนักข่าว BBC รายงานว่า ได้สัมผัสถึงวัตถุระบุไม่ได้ ขนาดใหญ่ และแข็งแรงกว่าปกติ แต่คาดเดาว่าอาจเป็นแมวน้ำ
- 2018 / สำรวจดีเอ็นเอ : ทีมวิจัยจากมหาลัยโอทาโก, โคเปนเฮเกน, ฮัลล์ และไฮแลนด์ส สำรวจดีเอ็นเอทะเลสาบ แต่ไม่พบ DNA ของปลาขนาดใหญ่ หรือแม้แต่ของนาก หรือแมวน้ำ
ลักษณะ เนสซีแห่งล็อกเนสส์ มีขนาดใหญ่แค่ไหน
แม้จะมีคำบอกเล่าจำนวนมาก ว่าพบเห็น เนสซีแห่งล็อกเนสส์ แต่ไม่มีข้อมูลที่แน่ชัด เกี่ยวกับขนาดตัวของมัน แต่ส่วนใหญ่ระบุว่า มันเป็นสัตว์ตัวมหึมา และเคยคาดการณ์ว่า มันเป็นฉลามสายพันธุ์กรีนแลนด์ ซึ่งขนาดตัวยาวได้ถึง 20 ฟุต หรืออาจจะเป็นปลาไหลขนาดใหญ่ หรือแม้กระทั่งช้างว่ายน้ำ [2]
แต่บางคนบรรยายว่า มันมีขนาดเท่าเรือลำเล็ก และคิดว่าตัวยาวราวๆ 8 ฟุต และเป็นเวลากว่า 90 ปี ที่มีรายงานอ้างว่าพบเห็นกว่า 1,000 พัน ความเห็นตรงกันคือมันเป็นสัตว์ทะเล หัวเล็ก คอยาวมากถึง 10 ฟุต มีครีบ และสองโหนก ปัจจุบันมีข้อเสนอว่า มันอาจสูงประมาณ 4-5 ฟุต ยาว 25 ฟุต [3]
ทฤษฎี เนสซีแห่งล็อกเนสส์ เป็นไดโนเสาร์หรือเปล่า
ทฤษฎีความคิด เกี่ยวกับชนิดของมัน อันดับแรกคือ พลีซิโอซอร์ (Plesiosaur) บ่งชี้ว่ามันเป็นสัตว์เลื้อยคล้ายในยุคไดโนเสาร์ เพราะมีลำคอยาวบวกกับหลังค่อม ซึ่งคล้ายกับนักล่าใต้น้ำอย่างพลีซิโอซอร์ แต่ด้วยหลักฐานทางกายภาพที่ไม่สมบูรณ์ ทำให้ไม่รู้ว่า แท้จริงแล้วมันเป็นไดโนเสาร์หรือเปล่า ส่วนข้อสันนิษฐานอื่นๆ มีดังนี้
- ปลาไหลยักษ์ : อาจเป็นสายพันธุ์ปลาไหลใหญ่ผิดปกติ แต่นักวิทยาศาสตร์สงสัยว่า มันสามารถตัวโตได้ขนาดนั้นเลยหรอ
- คลื่นน้ำ : ผู้ตั้งคำถามหลายคน แย้งว่าเนสซีอาจเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติ เช่น คลื่นนำ ที่มีรูปร่างคล้ายงู ทำให้คนคิดว่ามันกำลังเคลื่อนไหวอยู่
- ภาพลวงตา : การพบเห็นทั้งหมดที่ถูกกล่าวอ้าง อาจจะเป็นแค่การล้อเล่น หรือระบุสปีชีส์ผิดพลาด จากแมวน้ำหรือปลาสเตอร์เจียนยักษ์
- สายพันธุ์ที่ไม่มีในบันทึก : หลายคนมองว่า เนสซีอาจเป็นสัตว์น้ำที่ไม่มีในบันทึก
ที่มา: Theories [4]
ที่ตั้งของ เนสซีแห่งล็อกเนสส์ ทะเลนี้อยู่ไหน
ทะเลสาบล็อกเนสส์ คำว่า Loch หมายถึง ทะเลสาบ ในภาษาแกลิกสกอต ตั้งอยู่ทางเหนือของสกอตแลนด์ ถือเป็นทะเลสาบใหญ่ที่สุดของซีกโลกเหนือ ลักษณะยาวคล้ายกิ่งไม้ กินพื้นที่ความยาว 37 กม. ส่วนที่กว้างที่สุดคือ 1.6 กม. และน้ำลึกเฉลี่ย 132 เมตร
อุณหภูมิน้ำค่อนข้างเย็น 5-6 องศาเซลเซียส แต่ไม่เคยเป็นน้ำแข็ง โดยมี 8 แม่น้ำ 60 ลำธาร และแหล่งน้ำเล็กๆ อีกร้อยกว่าแห่ง ที่ไหลลงสู่ทะเลสาบ ซึ่งพื้นที่แห่งนี้ อาจย้อนกลับไปเมื่อ 250 ล้านปี เกิดจากผิวโลกเคลื่อนไหว ทำให้เกิดเป็นหุบเขาและเหวลึก เรียกว่าเกรตเกลน
หลังจากนั้น น้ำจากเขาไหลลงสู่หุบเหว จนก่อให้เกิดเป็นพื้นที่ทะเลสาบ ได้แก่ ล็อกเนสส์, ล็อกโลชี และล็อกออยช์ กระทั่งในปี 1933 มีการทำถนนตัดผ่าน และเกิดเป็นตำนาน สัตว์ประหลาดเนสซีจนถึงปัจจุบัน
ที่มา: ล็อกเนสส์ [5]
สรุป เนสซีแห่งล็อกเนสส์
เนสซีแห่งล็อกเนสส์ สัตว์ประหลาดไซส์ยักษ์ ลักษณะเด่นคือมีคอยาว ปรากฏสู่สายตาครั้งแรกในปี ค.ศ. 565 ก่อนจะเป็นกระแสสุดๆ ในปี 1933 ซึ่งจนถึงปัจจุบัน ยังไม่มีข้อสรุป ว่าความจริงมันมีอยู่จริงไหม หรือเป็นสัตว์สายพันธุ์อะไร
อ้างอิง
[1] Wikipedia. (October 27, 2024). Sightings. Retrieved from en.wikipedia
[2] Highland Titles. (October 15, 2024). How Big is the Loch Ness Monster. Retrieved from highlandtitles
[3] Discover. (January 23, 2024). How Big Is the Loch Ness Monster?. Retrieved from discovermagazine
[4] Historyhit. (November 9, 2023). Theories. Retrieved from historyhit
[5] วิกิพีเดีย. (November 6, 2024). ล็อกเนสส์. Retrieved from th.wikipedia