ว่าด้วยเรื่องตำนาน สัตว์ประหลาดซีตัส (Cetus) เป็นสิ่งมีชีวิตใหญ่มหึมา อาศัยในทะเล ตามตำนานเทพเจ้ากรีก ซึ่งมีบทบาทเป็นคู่ต่อสู้ ของเพอร์ซีอุส มักถูกบรรยายว่าเป็นงูทะเล หรือคล้ายกับปลาวาฬยักษ์ ส่วนข้อมูลเพิ่มเติม ตามเราไปศึกษาต่อด้านล่าง
ชื่ออื่นๆ ของ สัตว์ประหลาดซีตัส หมายถึงอะไร
สัตว์ประหลาดซีตัส เป็นคำจากภาษากรีกโบราณอย่าง kētŏs หรือ kētē ก่อนจะถูกแปลงเป็นภาษาละตินว่า cetus หมายถึงปลาขนาดใหญ่ ปลาวาฬ ฉลาม หรือสัตว์ทะเลที่ถูกสังหารโดยเพอร์ซีอุส หรือเฮราคลีส ในขณะที่ชาวโรมันมักเรียกมันว่า “เซเทีย” ส่วนตำราบางเรื่อง ซีตัสถูกเรียกเหมารวมว่าเป็น คราเคน [1]
ตำนานของ สัตว์ประหลาดซีตัส คืออะไร
ในตำนานอันโด่งดังกล่าวว่า ราชินีคาสสิโอเปีย อ้างว่าเธอและลูกสาว สวยกว่าเทพีเนไรด์ เป็นผลให้ เทพเจ้าโพไซดอน โกรธแค้น แล้วส่งสัตว์ประหลาดทะเล เพื่อไปโจมตีเอธิโอเปีย กษัตริย์จึงตัดสินใจ ส่งลูกสาวไปเป็นเครื่องสังเวยซีตัส
ต่อมาเพอร์ซีอุสรู้ข่าว จึงเดินทางเพื่อไปสังหารซีตัส ในตอนที่มันโผล่ขึ้นมาจากทะเล โดยตามตำนานบอกว่า เพอร์ซีอุสคร่าชีวิตมันด้วยพิณ ที่เทพเจ้าเฮอร์มีสให้มา ส่วนอีกคำบอกกล่าวเล่าว่า เพอร์ซีอุสใช้ศีรษะของเมดูซ่า เปลี่ยนให้ซีตัสกลายเป็นหิน ส่วนตำนานอื่นๆ มีดังนี้
- ตำนานอีทรัสคัน : เรียกซีตัสว่าเซเตีย ทำหน้าที่เป็น “ไซโคปอมป์” หรือผู้นำวิญญาณ มักปรากฏอยู่บนโลงศพ หรือโถอัฐิ ร่วมกับปลาโลมาและ ฮิปโปแคมปัส
- ตำนานชาวยิว : เป็นสัตว์ที่เรียกว่า “แทนนิน / ตุนนานู” กำเนิดขึ้นมาจากพระเจ้า และถูกระบุไว้ในคัมภีร์วิวรณ์ของอิสยาห์ ว่าเป็น 1 ในสัตว์ที่จะถูกพระเยโฮวาห์สังหาร นอกจากนี้ แทนนินยังเกี่ยวข้องกับทั้ง เลวีอาธาน และราฮับอีกด้วย
ที่มา: Greek mythology, Etruscan mythology, Bible and Jewish mythology [2]
ลักษณะ สัตว์ประหลาดซีตัส มีหน้าตาเป็นยังไง
ตามตำนานกรีก มันถูกบรรยายว่า เป็นมอนสเตอร์ในทะเลตัวใหญ่น่ากลัว บ้างก็ว่าเป็นปลาตัวใหญ่ งู หรือแม้กระทั่งปลาวาฬ มีฟันแหลมคม ร่างกายยาวเรียว และดวงตาใหญ่ ส่วนในงานศิลปะนำเสนอภาพมันไว้ดังนี้
- วาดให้มีอารมณ์ดุร้ายอย่างมาก
- เป็นมังกรหรือยักษ์
- ทำให้ลูกเรือหวาดกลัว [3]
ส่วนเวอร์ชันเพิ่มเติม พรรณนาว่ามันมีหัวเป็นหมูป่า หรือศีรษะเหมือนสุนัขเกรย์ฮาวด์ ลำตัวคล้ายปลาวาฬหรือโลมา มีหางแยกเป็นแฉกเหมือนกับพัด มีขนาดตัวเท่าเรือ ส่วนหัวเพียงอย่างเดียวยาวถึง 40 ฟุต กระดูกหลังหนา 1 ศอก มีกระดูกไหล่ใหญ่กว่าช้าง
ความเกี่ยวข้องกันของ สัตว์ประหลาดซีตัส & เต่าดำ
สัตว์ประหลาดซีตัส และเต่าดำ เป็นสัตว์ที่สอดคล้องกันตามโหราศาสตร์ เนื่องด้วยทั้ง 2 เกี่ยวข้องกับน้ำ และการเดินทางไปยังยมโลก เพื่อนำทางผู้คน นอกจากนี้ยังเชื่อมโยงกับ สัตว์ประหลาดในตำนานอื่น ได้แก่ เกตุ (ตำนานฮินดู), มาการะ (ตำนานฮินดู) เป็นต้น
ทำความรู้จักกลุ่มดาวซีตัส จากเรื่องเล่า สัตว์ประหลาดซีตัส
จากตำนานที่เล่าต่อกันมา สู่ข้อมูลทางดาราศาสตร์ นั่นคือกลุ่มดาวที่ชื่อว่าซีตัส หรือรู้จักในชื่อ “กลุ่มดาวปลาวาฬ” เป็นกลุ่มดาวใหญ่ อยู่บนท้องฟ้าทะเลสวรรค์ ใกล้ๆ กันมีกลุ่มดาวเกี่ยวกับน้ำ เช่น ราศีมีน หรือกลุ่มดาวอีริดานัส มีลักษณะเป็นดาวคล้าย 5 เหลี่ยม มีความซิกแซ็ก
โดยอยู่ห่างจากโลก (ดาวบริวาร) ประมาณ 300 ปีแสง ซึ่งการมองเห็นดาวซีตัส ช่วงที่เหมาะที่สุดคือในช่วงใบไม้ร่วง และฤดูหนาวในซีกโลกเหนือ ระหว่างเดือนตุลาคม-มกราคม ประกอบด้วยดาวที่มีชื่อเสียง ได้แก่
- ดาวมิรา (Mira) : เป็นดาวแปรแสง ได้รับฉายาว่าดาวมหัศจรรย์ มองเห็นด้วยตาเปล่า
- ดาวเดเนบ ไคโตส (Deneb Kaitos) : เป็นดาวฤกษ์สว่างที่สุด ชื่อนี้หมายถึง “หางปลาวาฬ” ในภาษาอาหรับ
- ดาวเทาเซติ (Tau Ceti) : คล้ายกับดวงอาทิตย์ อยู่ใกล้ระบบสุริยะมากที่สุด ห่างออกไปประมาณ 12 ปีแสง
ที่มา: A Guide to the Cetus Constellation and Its Stars [4]
การสำรวจกลุ่มดาวซีตัส พบความลึกลับอันไหนบ้าง
กาแล็กซีเซย์เฟิร์ต : M77
หนึ่งในกาแล็กซีของกลุ่มดาวซีตัส อยู่ในระยะห่าง 45 ล้านปีแสง มีระดับความสว่างถึง 9.6 และเป็น 1 ในกาแล็กซีใหญ่ที่สุด มันถูกเรียกด้วยชื่อ แค็ตตาล็อกเมสสิเยร์ (Messier catalog) มีลักษณะเป็นเกลียว มีขานขวาง และขนาดใหญ่
วงแหวนซีตัส : NGC 246
วงแหวน NGC 246 เป็นเนบิวลาดาวเคราะห์ ห่างจากโลก 1,600 ปีแสง ส่องสว่างระดับ 8.0 นอกจากนี้ยังมีกาแล็กซี NGC 1055 อยู่ด้านล่าง รวมไปถึงกาแล็กซี Sculptor และ NGC 253 อีกด้วย
ที่มา: Exploring the Stars of Cetus [5]
สรุป สัตว์ประหลาดซีตัส
สัตว์ประหลาดซีตัส หรือสัตว์ประหลาดเซเตีย เป็นตำนานแห่งโพไซดอน ที่ถูกส่งมาเพื่อลงโทษ กษัตริย์เอธิโอเปีย ก่อนที่มันจะถูกสังหารโดยเพอร์ซีอุส ซึ่งบทบาทที่เล่าต่อกัน ใกล้เคียงกับตำนาน ปลาหมึกยักษ์คราเคน
อ้างอิง
[1] Mythlok. (2021-2024). Other names. Retrieved from mythlok
[2] Wikipedia. (October 19, 2024). Greek mythology, Etruscan mythology, Bible and Jewish mythology. Retrieved from en.wikipedia
[3] Mystery in History. (December 19, 2024). What Did Cetus Look Like?. Retrieved from mysteryinhistory
[4] Centre Of Excellence. (November 12, 2025). A Guide to the Cetus Constellation and Its Stars. Retrieved from centreofexcellence
[5] International Star Registry. (August 27, 2024). Exploring the Stars of Cetus. Retrieved from starregistry